สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมในที่ทำงาน และประสบการณ์ของพนักงานอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีนั้นจะส่งผลต่อทุกสิ่ง ตั้งแต่ระดับความเครียด สุขภาพจิต ไปจนถึงผลิตภาพและประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีนั้นเป็นมากกว่าแค่เรื่องสีผนังของออฟฟิศ จริง ๆ แล้วมันไม่เกี่ยวกับสถานที่ทำงานเลยด้วยซ้ำ
การวิจัยจาก McKinsey ชี้ให้เห็นว่าบางภาคส่วนมีพนักงานทำงานจากที่บ้านในช่วงหลังเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกมากกว่าช่วงก่อนล็อกดาวน์ถึง 5 เท่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์นี้จะทำให้ 'สภาพแวดล้อมในการทำงาน' ของบริษัทของคุณดูเป็นแบบรูปธรรมน้อยกว่าในปี 2019 แต่ก็ยังมีอะไรอีกมากที่คุณสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงและใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เพื่อให้พนักงานมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจให้อยากตื่นขึ้นมาทำงาน
เรามาดูส่วนประกอบสำคัญบางส่วนที่จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีและวิธีนำไปใช้อย่างถูกที่ถูกทางกัน
เมื่อคุณนึกถึง 'สภาพแวดล้อมในการทำงาน' สิ่งแรกที่คุณอาจเห็นภาพคือสถานที่ทำงานจริง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะที่คุณนั่ง ระยะห่างจากเครื่องชงกาแฟ หรือโทนสีในห้องประชุม แต่สภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นมากกว่าแค่สภาพแวดล้อมทางกายภาพ
สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีคือพื้นที่ที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ผลิตภาพ และการเติบโตของพนักงาน ปัจจัยบางส่วนที่นำไปสู่สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีนั้นหมายรวมถึงการมีแนวปฏิบัติที่ดีในการทำงาน มีค่านิยมที่ทุกคนเข้าถึงได้ มีบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความเอื้ออาทร และมีวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ
กล่าวโดยสรุปคือ สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีคือพื้นที่ที่ส่งเสริมให้ผู้คนทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพของตน และสามารถนำไปปรับใช้ได้ไม่ว่าพนักงานจะทำงานร่วมกันในที่ทำงานจริงหรือทำงานจากทางไกลผ่านสภาพแวดล้อมเสมือนจริง
สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีมีประโยชน์ต่อบุคลากรในทุกระดับขององค์กร งานวิจัยจาก Deloitte แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหาร 94% และพนักงาน 88% เชื่อว่าวัฒนธรรมการทำงานที่ดีมีความสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ นั่นเป็นเพราะการสร้างพื้นที่ที่พนักงานรู้สึกมีความสุขและได้รับแรงบันดาลใจจะทำให้พนักงานรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและทำงานร่วมกันมากขึ้น ทั้งยังทำให้พนักงานมีแรงกระตุ้นที่จะบรรลุเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายด้านอาชีพของตนด้วย
ต่อไปนี้คือประโยชน์ 5 ข้อที่พนักงานจะได้รับจากสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี
ความเครียดและภาวะหมดไฟลดลง
Labour Force Survey ของสหราชอาณาจักรระบุว่า พนักงาน 828,000 คน รู้สึกเป็นทุกข์จากความเครียด ภาวะซึมเศร้า หรือความวิตกกังวลจากการทำงานในช่วงปี 2019 ถึงปี 2020 ส่งผลให้สูญเสียวันทำงานไปทั้งสิ้น 17.9 ล้านวัน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากทีเดียว
ดังนั้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกสบายใจที่จะขอความช่วยเหลือในการจัดการกับความเครียด ไม่ทำให้เกิดภาวะหมดไฟ และลดการขาดงานจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
เพิ่มผลิตภาพ
ความสุขและผลิตภาพนั้นเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน การศึกษาของมหาวิทยาลัย Oxford เกี่ยวกับผลิตภาพของพนักงานในบริษัท BT พบว่า พนักงานมีผลิตภาพเพิ่มขึ้น 13% เมื่อมีความสุข โดยพนักงานจะทำงานได้เร็วขึ้น รับสายต่อชั่วโมงได้มากขึ้น และเปลี่ยนการโทรให้เป็นยอดขายได้มากขึ้น
สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีจะช่วยให้พนักงานทำงานลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีผลงานโดยรวมเพิ่มขึ้น และช่วยให้พนักงานแต่ละคนก้าวหน้าในอาชีพการงานได้เร็วขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย
รักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พนักงานที่มีความสุขมักไม่ค่อยเริ่มค้นหาโอกาสจากที่อื่น ๆ แม้ว่าคุณอาจจะสามารถดึงดูดผู้มีความสามารถด้วยเงินเดือนสูง ๆ ได้ แต่หากวัฒนธรรมองค์กร สภาพแวดล้อมในการทำงาน และโอกาสก้าวหน้าไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ไม่นานพนักงานก็จะเริ่มมองหางานใหม่
Work Institute ประมาณค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนพนักงานในสหรัฐฯ คนเดียวอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์หรือประมาณหนึ่งในสามของรายได้ต่อปีของพนักงาน ในขณะเดียวกัน ผลตอบแทนการลงทุนจากการจ้างพนักงานที่ลาออกจากงานภายในปีแรกนั้นน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้เอง การลาออกเร็วจึงเป็นหนึ่งในต้นทุนที่แพงที่สุดที่บริษัทต้องเผชิญ แต่ก็เป็นปัจจัยที่ป้องกันได้เช่นกัน
มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
แบบสำรวจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ประจำปีของ CIPD เผยว่า ปี 2020 เป็นปีที่สุขภาพจิตในที่ทำงานย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ เกือบสองในสาม (68%) ของผู้ตอบแบบสำรวจรายงานว่าตนเกิดภาวะวิตกกังวลบางรูปแบบ และ 58% กล่าวว่าตนมีอาการซึมเศร้าเล็กน้อย
เกิดขวัญกำลังใจ
ถ้าจะกล่าวโดยสรุป ขวัญกำลังใจของพนักงานคือความพึงพอใจ ทัศนคติ และมุมมองโดยรวมที่พนักงานรู้สึกเมื่ออยู่ในที่ทำงาน ขวัญกำลังใจของพนักงานในระดับสูงจะเป็นแรงกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมและทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่องาน
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อขวัญกำลังใจในที่ทำงาน ได้แก่ การสื่อสารทางธุรกิจที่ดีระหว่างพนักงานและผู้บริหาร การกำหนดเส้นทางอาชีพที่ชัดเจนและวัดผลได้ ตลอดจนการเฉลิมฉลองผลสัมฤทธิ์และความสำเร็จของพนักงาน
คุณจะสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีได้อย่างไร จากข้อมูลของ Work Institute พบว่า 78% ของเหตุผลที่พนักงานลาออกนั้นเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ แต่การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยากเสมอไป ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญ 7 ข้อที่ควรให้ความสำคัญ
สร้างประสบการณ์การฝึกอบรมพนักงานใหม่ที่น่าประทับใจ
คุณอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า 'ความประทับใจแรกคือความประทับใจที่ไม่รู้ลืม' ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะประสบการณ์ของพนักงานที่ดีเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันแรก แบบสำรวจ What Workers Want ของ Hays แสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมในออฟฟิศที่ไม่พึงประสงค์นั้นทำให้ผู้สมัคร 64% ไม่อยากเข้ามาทำงานด้วย และพนักงานที่ไม่ให้การต้อนรับก็ทำให้พนักงานใหม่จำนวน 44% รู้สึกหมดแรงบันดาลใจในการทำงานตั้งแต่วันแรก
ดังนั้นการทำความเข้าใจความต้องการของพนักงานใหม่จึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความประทับใจแรกที่ยอดเยี่ยม การแนะนำออฟฟิศและการบอกถึงบทบาทอย่างชัดเจน รวมถึงการพาไปชมสถานที่ทำงาน ทั้งแบบออนไลน์และในสถานที่จริง สามารถช่วยให้พนักงานใหม่รู้สึกคุ้นเคยและทำให้พวกเขาได้สัมผัสวัฒนธรรมองค์กรของคุณได้
มีค่านิยมที่ชัดเจน
วัฒนธรรมหรือค่านิยมองค์กรที่ชัดเจนส่งผลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจโดยรวมอย่างชัดเจน แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ทำยากสำหรับหลายองค์กร
ค่านิยมของบริษัทที่ชัดเจนและสร้างแรงบันดาลใจคือสิ่งที่กำหนดวิสัยทัศน์ให้กับธุรกิจของคุณ และเป็นสิ่งที่รวมพนักงานของคุณให้เป็นหนึ่งเดียว แต่คุณต้องแน่ใจว่าได้นำค่านิยมนั้นไปปฏิบัติจริงเพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าคุณกำลังพยายามบรรลุเป้าหมายร่วมกันอยู่อย่างแท้จริงด้วย
ส่งเสริมการเชื่อมต่อ
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานทุกคนเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันเป็นทีม เนื่องจากพนักงานทุกระดับจะรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของทีม และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในวัฒนธรรมการทำงานจากทางไกลในปัจจุบัน ซึ่งผู้คนไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอกันบ่อยนัก
กิจกรรมการสร้างทีม ไม่ว่าจะเป็นแบบตัวต่อตัวหรือทางออนไลน์ ก็เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการนำเพื่อนร่วมงานมารวมตัวกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความสามัคคีและการเชื่อมต่อทางสังคมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้เคารพซึ่งกันและกันและก่อให้เกิดความไว้วางใจ
ให้ความสำคัญกับสุขภาวะ
การที่นายจ้างตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับความเป็นอยู่ของพนักงานและแสดงให้เห็นว่าพวกเขาตระหนักในเรื่องดังกล่าวจริง ๆ นับว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การวิจัยของ Workplace from Meta เผยว่า 58% ของพนักงานในสหราชอาณาจักรคิดจะลาออกหากผู้นำของบริษัทไม่แสดงความเข้าอกเข้าใจต่อความต้องการของพนักงาน
การมอบสิทธิประโยชน์ เช่น ส่วนลดค่าสมาชิกยิม ทางเลือกการทำงานที่ยืดหยุ่น และการให้คำปรึกษาฟรี จะช่วยลดความเครียดในที่ทำงานและปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมให้ดีขึ้นได้ นโยบายที่เปิดกว้าง ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถพูดคุยกับผู้นำเกี่ยวกับสิ่งที่ตนคิดได้ ก็อาจมีประสิทธิภาพไม่น้อยไปกว่ากัน
ส่งเสริมความหลากหลายและการเปิดกว้าง
บริษัทของคุณต้อนรับคนจากทุกวัย เชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และเพศหรือไม่ ทีมที่มีความหลากหลายและเปิดกว้างจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้แก่องค์กรที่มีความทันสมัยและมีหัวก้าวหน้า แต่หากบริษัทของคุณไม่ค่อยมีความหลากหลายมากนัก ก็อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสบการณ์การจ้างงานในขอบเขตที่กว้างขึ้นและส่งผลต่อความรู้สึกสบายใจในสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเพิ่มความหลากหลายในที่ทำงานของคุณ
ทำให้ที่ทำงานจริงมีบรรยากาศที่เหมาะสม
ไม่น่าเชื่อว่าพื้นที่ทำงานจริงที่มีความเหมาะสมจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เก้าอี้ที่คุณจัดเตรียมไว้ไปจนถึงไฟในออฟฟิศจะส่งผลต่อพนักงานและความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างเต็มศักยภาพของพนักงานโดยตรง
ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเรื่องงานเท่านั้น แม้ว่าการสร้างพื้นที่ที่สะดวกสบายและส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การออกแบบพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกันและพื้นที่สำหรับพักเบรกก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากจะทำให้พนักงานสามารถสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมและดูแลสุขภาพจิตของตนในสภาพแวดล้อมการทำงานได้
เปิดกว้าง
พนักงานที่รู้สึกว่าผู้นำสื่อสารกับพวกเขาโดยตรงและสื่อสารตามความจริงมักจะเคารพบริษัทที่พวกเขาทำงานด้วยและรู้สึกดีต่อสภาพแวดล้อมในการทำงาน อย่างไรก็ตาม พนักงานไม่ได้ต้องการแค่การเปิดเผยเกี่ยวกับองค์กรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า 62% ของพนักงานต้องการความโปร่งใสในประเด็นทางสังคมต่างๆ เช่น สภาพภูมิอากาศ ความหลากหลาย และการเปิดกว้าง
เมื่อมีการทำงานจากทางไกลและการทำงานแบบไฮบริดมากขึ้น คุณก็จะต้องถ่ายทอดสิ่งที่จะสื่อไปพร้อม ๆ กับทำให้พนักงานสามารถสื่อสารกับคุณและคนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก : workplace.com
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2565 สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์
Copyright All Reseve 2022 Cooperative Technology Transfer and Development Office
Picture Icons & Symbols จากเว็บไซต์ Pixabay.com, Freepik.com, Flation.com, Canva.com