
การทำงานในยุคโควิด-19 แพร่ระบาด นำไปสู่โรคประจำถิ่นของสังคมไทยในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบให้เหล่าพนักงานออฟฟิศต้องปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานแบบ Work From Home เป็นส่วนใหญ่ โดยอุปกรณ์ตัวกลางในการประสานการทำงานแก่พวกเขาคงไม่พ้นจากคอมพิวเตอร์ และเครื่องระบบดิจิตอลจอสัมผัสอย่างสมาร์ทโฟน ที่มีแสงสีฟ้าเป็นองค์ประกอบหลักในการส่งผลสุขภาพสายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนอวัยวะของ เลนส์ตา ที่มีหน้าที่ในการหักเหแสงกระทบจอตาในการเห็นภาพเป็นอย่างมาก
แสงสีฟ้า (Blue Light) จัดเป็นภัยร้ายเงียบที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างละเลยการถนอมสายตา แหล่งพลังงานได้กระจายรังสีคลื่นแสงที่สามารถสร้างผลกระทบกล้ามเนื้อดวงตาอ่อนล้า จอประสาทเสื่อม และนำไปสู่ปัญหาภาวะค่าสายตาแก่ผู้ใช้สื่อดิจิตอลในชีวิตประจำวันได้

โรควุ้นในตาเสื่อม (Vitreous Degeneration) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุผ่านดวงตาโดยตรง พร้อมรวมถึงการผ่าตัด การเสื่อมโทรมสภาพวุ้นตาตามอายุ และภาวะสายตาสั้น
ระยะเริ่มต้น ตัววุ้นตาจะจับตัวเป็นก้อนแล้วกลายเป็นจุดฝ้าดำข้างในส่วนประกอบดวงตาอย่าง จอประสาทตาได้ อาการของผู้ป่วยจะมองเห็นภาพเหมือนมีหยากไย่ลอยไปมา และเห็นแสงสว่างคล้ายแสงแฟลช ในยามกลางคืนดวงตาจะไม่มองเห็นเงาในพื้นที่มืด หากไม่ได้รับการถนอมสายตา ส่วนประกอบเส้นเลือดในการลำเลียงน้ำในจอประสาทตาอาจฉีกขาด นำไปสู่ภาวะตาบอดได้
โรคสายตาสั้น และภาวะสายตาเอียง (Myopia and Astigmatism) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบมาจากกรรมพันธุ์ทางยีนส์ด้อย การคลอดก่อนกำหนด หรือการทำกิจกรรมการใช้สายตาอย่างการจดจ้องภาพในระยะเวลานานเกินไป หรือการใช้สายตาดูสื่อดิจิตอลต่าง ๆ อาการของผู้ป่วยจะมองเห็นวัตถุในระยะไกลไม่ชัดเจน เกิดการมองเห็นภาพเบลอ ไม่ชัด นำไปสู่อาการ ปวดตา ตาล้า และใช้กล้ามเนื้อตรงส่วนดวงตาในการเพ่งภาพมากกว่าปกติ
โดยทั่วไปผู้ป่วยทางสายตาสั้น มีโอกาสได้รับผลกระทบภาวะสายตาเอียงได้ เป็นผลที่เกิดจากส่วนประกอบกระจกตามีความโค้งที่ไม่สมมาตรกัน ทำให้การหักเหของแสงไม่ตั้งฉากกับภาพที่มองเห็น ทำให้บางครั้งผู้ป่วยต้อเอียงคอ เพื่อให้ภาพข้างหน้าเกิดการตั้งฉากกัน หากไม่ได้รับการถนอมสายตา อาจทำให้สายตาพร่ามัวในระยะเริ่มต้น โปรตีนที่ทำการหล่อเลี้ยงส่วนของเลนส์แก้วตาเสื่อมสภาพกลายเป็นต้อจุดเล็ก และอาจสะสมเป็นก้อนใหญ่ที่อาจนำไปสู่โรคทางสายตาอย่าง โรคต้อกระจกได้
โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สายตาจดจ้องกับภาพหน้าจอที่มีแสงสีฟ้านานเกินไป อาการของผู้ป่วยจะ มีอาการตาแห้ง แสบตา เคืองตา ปวดตา และปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดไหล่ และอาการปวดหลังจากการไม่ค่อยเคลื่อนที่และเปลี่ยนท่าอิริยาบถใด ๆ หากไม่ได้รับการถนอมสายตา อาจทำให้เกิดภาวะสายตาเอียงได้ เนื่องจากแสงที่หักเหตรงส่วนเลนส์ตาที่ได้รับพลังงานแสงสีฟ้ามากเกินไป อาจทำให้การมองเห็นภาพไม่ตั้งฉาก อีกทั้งยังเกิดอาการตาแห้ง ภูมิแพ้ขึ้นตา และภาวะตาเหล่อีกด้วย
โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบจากกรรมพันธุ์ การเข้าสู่ภาวะผู้สูงอายุ และการใช้สารเสพติดอย่างการสูบบุหรี่ ที่มีผลต่อการเสื่อมสภาพการทำงานของจอประสาทตา ในระยะเริ่มต้นผู้ป่วยมีอาการ สายตามองไม่ชัดเป็นครั้งคราว เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือมีจุดดำตรงกลางภาพ การมองเห็นสีเพี้ยน เช่น มองผ้ามีสีซีดลง
หากไม่ได้รับการถนอมสายตา ส่วนของตาดำ (Cornea) ที่ทำหน้าที่เป็นจุดภาพชัดของส่วนตรงกลางของผู้มอง เกิดจุดดำจาง ๆ กลางภาพ สายตาไม่สามารถทนรับแสงสว่าง แม้เป็นอาการที่สร้างผลกระทบไม่ร้ายแรงเท่าโรคอื่น ๆ ที่กล่าวมา ผู้ป่วยที่ป่วยภาวะโรคจอประสาทตาเสื่อมควรทำการนัดพบจักษุแพทย์เพื่อทำการถนอมสายตาโดยเร็วที่สุด
พนักงานออฟฟิศที่มีอาการ ตาพร่ามัว มองเห็นภาพเบลอ จนไปถึงส่วนประกอบการทำงานของอวัยวะตามีการทำงานผิดปกติจากการใช้สายตาผ่านคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลามากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ทางแพทย์ได้จัดเตรียม 7 วิธีถนอมสายตาจากคอมพิวเตอร์ ที่ช่วยบรรเทาภาระดวงตาของคุณและผู้ได้รับการผ่าตัด ให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น และสามารถบริหารเป็นกิจวัตรประจำวันได้ ดังต่อไปนี้
การกะพริบตาเป็นวิธีถนอมสายตาที่ช่วยทำให้ดวงตาของคุณมีน้ำตาหล่อเลี้ยงและปรับจูนการโฟกัสดวงตา พร้อมกับป้องกันสิ่งระคายเคือง จากแสงสีฟ้า ที่มีผลกระทบในขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะการโฟกัสหน้าจอ อัตราการกะพริบตาโดยทั่วไปจาก 20-22 ครั้งต่อนาที ลดลงเหลือเพียงประมาณ 6-8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น ดังนั้นการกะพริบตาเป็นการถนอมสายตาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตาอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นคนตาแห้งง่าย อาจใช้ตัวช่วยอย่างน้ำตาเทียม (Artificial Tears) ในการทดแทนปริมาณน้ำที่ขาดไปได้
การปรับความคมชัดของหน้าจอ (Screen resolution) ให้ลายละเอียดของตัวภาพและตัวอักษรนั้น ควรมีความสันทัดเข้ากับผู้ใช้ในการถนอมสายตา ไม่ควรปรับขนาดเล็กหรือใหญ่เดินไป เพราะจะทำให้ผู้ใช้เคยชินกับการดูภาพและตัวหนังสือที่ผิดเพี้ยนไปเกินความเป็นจริง
ในขณะที่ผู้ใช้กำลังทำกิจกรรมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรมีการพักสายตาเพื่อคลายอาการอ่อนหล้าของบริเวณกล้ามเนื้อมดวงตาแบบเป็นครั้งเป็นคราวอย่างสม่ำเสมอ โดยหลักการทำวิธีการถนอมสายตานี้คือ การละสายตาออกแล้วมองออกไปในระยะไกลประมาณ 10-20 วินาที แล้วกลับมามองระยะใกล้ในระยะเวลาเดียวกัน แล้วทำสลับกันทำหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยทำให้ความตึงเครียดบริเวณดวงตาคลายความเมื่อยล้าได้อย่างดี
การใช้สายตาโฟกัสที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ดวงตาของคุณเคยชินกับแสงสว่างในห้องโดยไม่รู้ตัวและไม่สามารถปรับตัวกับแสงพื้นที่ข้างนอกได้ และยังเป็นวิธีถนอมสายตาจากโทรศัพท์เมื่อผู้ใช้สื่อเคลื่อนที่ในการบริโภคต่างสถานที่ที่มีแสงแตกต่างกัน ดังนั้นแล้วการถนอมสายตาโดยการออกไปข้างนอกทุก 15 นาที จะช่วยทำให้สายตาสามารถปรับตัวที่แตกต่างจากในห้องเดิม ๆ ได้อย่างคุ้นเคย

การบริหารกล้ามเนื้อดวงตาแบบง่าย ๆ เป็นการถนอมสายตาที่คนทั่วไปสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน โดย 6 วิธีการดังนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการปฎิบัติถนอมสายตาอย่างยั่งยืนคือ การตรวจสุขภาพประจำปี ปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็คส่วนประกอบอื่น ๆ ของดวงตาว่า มีสิ่งผิดปกติหรือโรคแทรกซ้อนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ เช่น โรคแทรกซ้อนของต้อกระจกจะมี ต้อลม ต้อเนื้อ และต้อหิน ที่มีระยะอาการเริ่มต้นเหมือนอาการปวดตาทั่วไป แต่แท้จริงแล้วเป็นภัยเงียบที่สามารถสร้างผลกระทบการมองเห็นแก่ดวงตาได้ ดังนั้นหากได้รับการตรวจสุขภาพของดวงตาตั้งแต่ต้น จะทำให้หมอสามารถวินิฉัยอาการและนำไปสู่การรักษาแก่ผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก : 
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2565 สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์
Copyright All Reseve 2022 Cooperative Technology Transfer and Development Office
Picture Icons & Symbols จากเว็บไซต์ Pixabay.com, Freepik.com, Flation.com, Canva.com