18 ตุลาคม 2566 นายพิษณุ พินรอด ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ พร้อมด้วย นายนที สะอาดนัก ผู้อำนวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 15 จังหวัดเพชรบุรี และคณะ เยี่ยมชมการบริหารจัดการสหกรณ์ที่มีผลการดำเนินนโยบายต่าง ๆ อยู่ในระดับประสบผลสำเร็จและเป็นแบบอย่างที่ดี โอกาสนี้ นายบุญเลิศ นุ่มน้อย ประธานกรรมการ นางกัญญา บุญรอด ผู้จัดการสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ณ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านซ่อง จำกัด อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี

      สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านซ่อง จํากัด ก่อตั้งเมื่อ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2539 มีสมาชิกแรกตั้งจำนวน 40 คน สมาชิกปัจจุบันมีจำนวน 4,800 คน สหกรณ์ดำเนินนโยบายต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งให้แก่สมาชิกสหกรณ์ตามอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการสหกรณ์ ทั้งยังพัฒนาบุคลากรของตนเองควบคู่กันไปด้วยอย่างเป็นระบบ

      สหกรณ์มีโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน อาทิ “โครงการพัฒนาคณะกรรมการกลุ่มย่อย/สมาชิกด้วยความเข้มแข็งเพื่อพัฒนาสหกรณ์” เป็นโครงการจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ของคณะกรรมการกลุ่มย่อย ซึ่งสหกรณ์ได้จัดตั้งไว้ จํานวน 25 กลุ่ม เพื่อพัฒนาให้คณะกรรมการกลุ่มย่อยมีความเข้มแข็ง สามารถถ่ายทอดนโยบายหรือข่าวสารต่าง ๆ จากสหกรณ์ไปยังสมาชิกภายในกลุ่มย่อย “โครงการส่งเสริมอาชีพเสริมรายได้ของสมาชิก” สหกรณ์จัดทําโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคขุนและจัดหาตลาดในการจําหน่ายสินค้า โดยเชื่อมโยงพ่อค้าในชุมชนรวมทั้งสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้สมาชิก “โครงการตลาดออนไลน์ (บ้านซ่องพลาซ่า)” สหกรณ์จัดทําช่องทางการตลาด Online ใน Facebook ของสหกรณ์ โดยการตั้งกลุ่มที่มีชื่อว่า “บ้านซ่องพลาซ่า” เพิ่มช่องทางการจัดจําหน่ายให้กับสมาชิกสามารถซื้อขายสินค้าด้วยตนเอง และสหกรณ์สามารถช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าและร้านค้าให้กับสมาชิกได้อีกทางหนึ่ง

      ผลลัพธ์ที่ได้คือ สหกรณ์มีหนี้สินลดลงจากการช่วยบริหารงานของคณะกรรมการกลุ่มย่อย ทําให้เกิดการพัฒนาในด้านกระบวนการทํางานของสหกรณ์ และสมาชิกเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของสหกรณ์เพิ่มขึ้น ทั้งยังสามารถส่งเสริมและช่วยเหลือให้สมาชิกสหกรณ์มีอาชีพ มีรายได้ ลดปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ ไม่เพียงเท่านั้น สหกรณ์ยังมีการติดตามช่วยเหลือสมาชิกในโอกาสต่าง ๆ ด้วย นับว่าสหกรณ์มีการเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ เครือข่ายตลาด และสมาชิกอย่างเป็นระบบ สหกรณ์จึงสามารถเป็นที่พึ่งพิงให้แก่มวลสมาชิกได้อย่างยั่งยืน